ปัญหาการซื้อเสียงเลือกตั้งมีอะไรบ้าง

ประเทศไทยได้ปกครองระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข มาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2475 จนถึงปัจจุบันมีอายุ ๘๕ ปี ความหมายของการปกครองระบอบประชาธิปไตย มีผู้กล่าวเอาไว้ก็คือ  ประชาชนเป็นเจ้าของอำนาจสูงสุด เป็นการปกครองโดยประชาชน และเพื่อ สำหรับประชาชนสามารถมีส่วนร่วม ทางการเมืองในระบอบประชาธิปไตยหลายวิธี อาทิ มีส่วนร่วมในการเลือกตั้งผู้แทนไปทำหน้าที่แทนตนในการเสนอร่างกฎหมาย การระงับยับยั้งการออกกฎหมายหรือโครงการของรัฐถือเป็นกิจกรรมทางการเมืองอย่างหนึ่ง ที่มีความสำคัญอย่างยิ่งในระบอบประชาธิปไตย

ในอดีตที่ผ่านมาจนถึงปัจจุบันการเลือกตั้งมีทุกครั้งมีการทุจริตหลายรูปแบบ แต่ละรูปแบบต่างก็มีกลวิธีแตกต่างกัน เช่น การซื้อสิทธิขายเสียง ก็มีหลายวิธีการ การซื้อบัตรประจำตัวประชาชนในเขตเลือกตั้ง การซื้อกรรมการประจำหน่วยเลือกตั้ง ดังนั้นจึงกล่าวได้ว่า การซื้อสิทธิขายเสียง ก็คือ พฤติกรรมการทุจริตเลือกตั้งโดยใช้เงินแลกเปลี่ยนกับการลงคะแนนเสียงเลือกตั้ง หรือการเสนอให้สิ่งอื่นใดในรูปผลประโยชน์หรือทรัพย์สินต่างๆ หรืออาจเป็นการสัญญาว่าจะให้ทรัพย์สินเงินทองหรือสิ่งอื่นใดเป็นสิ่งตอบแทนแก่ผู้มีสิทธิเลือกตั้ง เพื่อให้ลงคะแนนหรือผู้ซื้อเสียงและงดเว้นการลงคะแนนแก่ผู้สมัครรับเลือกที่เป็นคู่แข่ง เป็นต้น

มีคำกล่าวไว้ว่า สิทธิ คือ อำนาจอันชอบธรรม เป็นสิ่งที่เกิดมาพร้อมกับตนเองตั้งแต่แรกเกิด ซึ่งบุคคลทุกคนพึงมีพึงได้ โดยไม่ไปเบียดเบียนคนอื่น สิทธิที่มีอยู่นี้จะปรากฏในหลาย ๆ ด้าน เช่น สิทธิในบ้านเรือนที่อยู่อาศัย ตลอดจนทรัพย์สินต่าง ๆ

ช้านาน ในระบอบประชาธิปไตย สิ่งสำคัญที่เป็นอย่างยิ่งคือ คือประชาชนต้องมีสิทธิเสรีภาพที่ไม่ไปเบียดบังสิทธิเสรีภาพของผู้อื่น  สิ่งนี้คือสิ่งที่บ่งบอกถึงศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ การซื้อสิทธิขายเสียงนั้นเป็นต้นเหตุที่นำไปสู่การคอรัปชั่นซึ่งเป็นสาเหตุของความวุ่นวายไทยมาอย่าง

การซื้อสิทธิขายเสียงจึงเป็นเสมือนมะเร็งร้ายที่เป็นอุปสรรคต่อการพัฒนาท้องถิ่นและพัฒนาประเทศ  ทำลายการพัฒนาระบบการปกครองระบอบประชาธิปไตยทั้งนี้ เพราะเมื่อมีการลงทุนซื้อเสียงของผู้สมัครรับการเลือกตั้งแลกกับการเข้าการดำรงตำแหน่งที่มีอำนาจทางการเมือง เป็นแนวคิดที่เกี่ยวกับการค้าขาย ลงทุน ผู้ลงทุนต้องมุ่งหวังผลตอบแทนหรือกำไรที่จะได้รับการการลงทุนนั้น  ดังนั้น เมื่อซื้อเสียงได้สำเร็จจนได้มีตำแหน่งทางการเมือง มีอำนาจที่จะแสวงหาผลกำไร ก็ย่อมจะแสวงหาผลประโยชน์จากตำแหน่งหน้าที่ทางการเมือง เพื่อที่จะให้ได้เงินลงทุนที่จะซื้อเสียงคืนกลับมาพร้อมด้วยกำไร และยังรวมไปถึงการแสวงหาผลประโยชน์ในรูปตัวเงิน เพื่อที่จะสะสมไว้สำหรับการซื้อเสียงในการเลือกตั้งครั้งต่อไปอย่างไม่จบไม่สิ้น

 

อ้างอิง http://wiki.kpi.ac.th/index.php?title=%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%8B%E0%B8%B7%E0%B9%89%E0%B8%AD%E0%B8%AA%E0%B8%B4%E0%B8%97%E0%B8%98%E0%B8%B4%E0%B9%8C%E0%B8%82%E0%B8%B2%E0%B8%A2%E0%B9%80%E0%B8%AA%E0%B8%B5%E0%B8%A2%E0%B8%87

http://bellpeeratat.blogspot.com/2011/02/blog-post.html